4 ความเชื่อแบบผิดๆ เมื่อคุณเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน
ช่วงนี้น้ำมันราคาแพง หากมีวิธีไหนที่พอจะช่วยให้การเติมน้ำมันในแต่ละครั้งคุ้มค่าที่สุด ผู้ใช้รถยนต์หลาย ๆ คนก็พร้อมที่จะขอลองทำดูก่อนไม่ใช่เรื่องเสียหาย แม้แต่ความเชื่อที่ถูกส่งต่อมา เช่น เติมน้ำมันตอนอากาศร้อนจะได้ปริมาณน้ำมันน้อยกว่าการเติมในช่วงเช้า เนื่องจากน้ำมันจะระเหยได้ง่ายกว่า หรือเติมเต็มถังแล้วจะขาดทุน เป็นต้น รวมถึงเข้าปั๊มเติมน้ำมันตอนอากาศร้อนจัดจะเป็นอันตราย คำพูดเหล่านี้แท้จริงแล้วเป็นความเชื่อที่ถูกต้องหรือไม่ Tonkit360 อาสาพาไปหาคำตอบ
เติมน้ำมันตอนเช้าคุ้มกว่าจริงหรือ
หนึ่งในความเชื่อที่ต้องเข้าไปเติมน้ำมันช่วงเช้าก่อนแดดเปรี้ยง ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้ปริมาณน้ำมันตรงตามจำนวนลิตรที่เราจ่ายเงินไป เนื่องจากอุณหภูมิในตอนเช้าจะไม่ทำให้น้ำมันระเหยออกไปได้เยอะเท่าช่วงเวลาเที่ยงไปจนถึงบ่าย ทว่าในความเป็นจริงแล้วสำหรับรถยนต์ทั่วไปไม่ว่าจะเติมตอนไหนก็ได้ปริมาณน้ำมันไม่ต่างกัน
โดยในสถานีบริการน้ำมันจะเก็บน้ำมันเอาไว้ที่ใต้ดิน ซึ่งตามกฎหมายจะต้องอยู่ลึกลงไปราว 1.5 เมตร และต้องควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา ฉะนั้น อุณหภูมิภายนอกขณะที่น้ำมันผ่านจากใต้ดินออกมาถึงรถคุณจึงแทบจะไม่มีผลในเรื่องปริมาณ สำหรับรถทั่วไปที่ความจุไม่เกิน 60-70 ลิตร
เติมเต็มถังตอนอากาศร้อนอันตรายจริงหรือ
เรื่องดังกล่าวก็ถือเป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจากรถยนต์ในปัจจุบันมีการออกแบบระบบเชื้อเพลิงให้รับมือกับไอน้ำมันเชื้อเพลิงและไม่มีความเสี่ยงต่อการระเบิด ฉะนั้น หากทำทุกอย่างตามปกติเราจึงไม่เคยได้ยินข่าวเติมน้ำมันแล้วระเบิดแต่อย่างใดไม่ว่าจะเติมในช่วงเวลาใดก็ตาม เนื่องจากคุณสมบัติของน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลจะติดไฟได้เองก็ต่อเมื่อมีอุณหภูมิสูงถึง 250 องศาเซลเซียส ซึ่งอากาศบ้านเราไม่ได้ร้อนขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นมนุษย์คงอยู่ไม่ได้แล้วล่ะถ้าอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 250 องศาเซลเซียสน่ะ
จริงหรือไม่ที่เติมเต็มถังแล้วจะขาดทุน
มีความเชื่อที่ว่าหากเราเติมน้ำมันเต็มถัง น้ำมันที่ถูกจ่ายออกมาจากหัวจ่ายจะไหลย้อนกลับไปที่ต้นทาง ทว่าในความเป็นจริงอุปกรณ์จ่ายน้ำมันในปั๊มถูกออกแบบมาให้เป็นระบบจ่ายออกอย่างเดียว ฉะนั้น จึงไม่มีโอกาสที่น้ำมันจะไหลย้อนกลับอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน
รวมถึงความเชื่อที่ว่าน้ำมันที่ค้างอยู่ในสายจ่ายน้ำมันที่มีความยาว 2.5 เมตรนั้น คือปริมาณน้ำมันที่ออกจากเครื่องจ่ายและถูกคิดเงินไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง กระบวนการคิดเงินจะถูกนับต่อเมื่อน้ำมันถูกส่งผ่านหัวจ่ายไปยังถังน้ำมันของรถคุณ ฉะนั้น น้ำมันที่ค้างอยู่ในสายจึงไม่ได้ถูกคิดเงินไปแต่อย่างใด
อันตรายที่สุดไม่ใช่ช่วงเวลาแต่อยู่ที่ตัวคุณ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเติมน้ำมันช่วงเวลาใดก็ได้ปริมาณไม่ต่างกันและระบบการเติมก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายคนหวาดกลัว อย่างไรก็ดีสิ่งที่อันตรายที่สุดก็อยู่ที่ตัวคุณเอง โดยเฉพาะคำเตือนที่ติดไว้ในปั๊มขณะคุณเติมน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น การห้ามสูบบุหรี่ การห้ามใช้โทรศัพท์ รวมถึงการดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมัน ทั้งหมดเป็นคำเตือนที่ควรจะต้องปฏิบัติตามให้เป็นปกตินิสัย เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา